พปชร. จี้ นายกฯ ล่าตัว “พิศาล” มาขึ้นศาลคดีตากใบ เหน็บอย่าใส่เกียร์ว่าง ปกป้องคน

[ibl]

พปชร. จี้ นายกฯ ล่าตัว "พิศาล" มาขึ้นศาลคดีตากใบ เหน็บอย่าใส่เกียร์ว่าง ปกป้องคนของพรรคตัวเอง
"พล.ต.ท.ปิยะ" เรียกร้อง "แพทองธาร" คืนความยุติธรรมให้ประชาชน ล่าตัว "พล.อ.พิศาล" ให้ได้ก่อนหมดอายุความ อย่าให้สังคมมองนายกฯ จงใจใส่เกียร์ว่าง หวังปกป้องคนของตัวเองมากกว่าความยุติธรรม หลังยื่นใบลาสภามีปัญหาทางสุขภาพ และไปต่างประเทศแล้ว

วันที่ 4 ตุลาคม 2567 พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีศาลจังหวัดนราธิวาส ออกหมายจับ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กรณีไม่ไปขึ้นศาลพิจารณาคดีเหตุการณ์สลายการชุมนุม อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ปี 2547 เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ว่า พรรคพลังประชารัฐขอเรียกร้องให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และในฐานะที่กำกับดูแลกระทรวงยุติธรรม รวมถึงยังเป็นหัวหน้าคณะรัฐมนตรี จะต้องสร้างความยุติธรรมให้ประชาชน จึงขอให้เร่งติดตามตัว พล.อ.พิศาล ที่ทราบมาว่า ได้มีใบลาการประชุมด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ และเดินทางไปต่างประเทศแล้ว มาดำเนินคดีตามหมายจับของศาลจังหวัดนราธิวาสโดยด่วน

พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวต่อว่า คดีตากใบใกล้จะหมดในอีก 22 วัน ก็คือวันที่ 25 ต.ค.67 ดังนั้นการดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องจะไม่สามารถดำเนินการได้อีก ซึ่งคดีดังกล่าวยังไม่ได้รับการคลี่คลาย และสังคมยังเกิดคำถามว่า รัฐบาลมีความพยายามที่จะเตะถ่วงคดีนี้หรือไม่ เพราะวันที่เกิดเหตุการณ์ตากใบขึ้นเมื่อวันที่ 25 ต.ค.47 ผู้นำรัฐบาลคือ นายทักษิณ ชินวัตร bl88bet

"ตามตำแหน่งแล้ว น.ส.แพทองธาร ถือเป็นผู้บังคับบัญชาของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และได้มอบหมายให้รับผิดชอบดูแลงานความมั่นคงทางทหาร และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) รวมถึงคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ด้วย และที่สำคัญ น.ส.แพทองธาร ฯ นายกรัฐมนตรี ยังมีฐานะที่สำคัญ ได้แก่
1. ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล
2. ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
3. ในฐานะหัวหน้าผู้ดูแลรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
ซึ่งจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ จะต้องสั่งการให้มีการเร่งนำตัว พล.อ.พิศาล มาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทันที หากยังเพิกเฉยสังคมอาจจะมองว่า น.ส.แพทองธาร ใส่เกียร์ว่าง จงใจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อปกป้อง ส.ส.ของพรรคตัวเองได้" พล.ต.ท.ปิยะ กล่าว